🐘 รีวิว พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จ.สมุทรปราการ
🔥 โปรโมชั่นพิเศษ นอกจากที่พิพิธภัณฑ์นี้จะสามารถใช้สิทธิ์ ชิม ช้อป ใช้ ได้ ช่วงนี้มีโปรค่าตั๋วราคาพิเศษ
🎟 บัตร One day Pass เข้าได้ 1 ครั้ง ราคาสำหรับคนไทย 250 บาท (ราคาปกติ) แต่ถ้าโชว์บัตร BTS ลด 50% เหลือ 125 บาทเท่านั้น!
🎟 บัตร One year Pass พิเศษตั้งแต่วันแม่ ถึงวันพ่อ ซื้อตั๋วปีในราคา 200 บาทเท่านั้น (ต้องใช้บัตรประชาชนเพื่อลงทะเบียน เข้ากี่ครั้งก็ได้ ภายใน 365 วัน
หลายคนอาจจะงงว่า ทำไมบัตรปีราคาถูกกว่า (เราเองก็งงเช่นกัน) แต่พอหน้างาน บัตรปีแถวจะยาวค่ะ แถมต้องใช้บัตรประชาชนด้วย ถ้าใครเอาเร็ว และไม่อยากใช้บัตรประชาชน หรือคิดว่าคงมาแค่ครั้งเดียวเท่านั้นก็ซื้อบัตรวันเดย์จะสะดวกกว่านะคะ
การจ่ายเงิน สามารถใช้ชิมช้อปใช้จ่ายได้ ข้อดีคือ ถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะใช้อะไร ก็มาใช้ที่นี่ก่อน ถ้าไปใช้ที่ห้างคนก็เยอะมาก ถ้ามาใช้ไปเที่ยว ยกตัวอย่างรูดบัตร 200 บาท ที่เหลือเงินใน App อีก 800 บาท ก็จะต่ออายุเงินไปถึง 30 พ.ย. เลยนะ
🕰 วันและเวลาทำการ: เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
🚝 การเดินทาง สามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีช้างสามเศียร ออกประตูทางออกที่ 1 เดินย้อนตามทางบนฟุตบาทไปประมาณ 500 เมตร จะเห็นโชว์รูมโตโยต้า และพิพิธภัณฑ์จะอยู่ด้านข้างโชว์รูม
🚗ขับรถจากกรุงเทพฯ สามารถใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท หลังจากที่ขับรถผ่านทางแยกที่จะไปบางพลี ให้สังเกตทางด้านซ้ายมือ พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ก่อนจะถึงทางแยกปากน้ำ
สำหรับการเดินทางครั้งนี้เราเลือกนั่ง BTS ไปลงสถานี ช้างเอราวัณ ลงทางออกที่1 ถ้าเดินตาม google map จะบอกทางแบบให้เดินอ้อม ไปและระยะทางเดินค่อนข้างไกล แต่จริงๆเราสามารถเดินบนฟุตบาท และไม่ต้องข้ามถนนๆใดๆ เดินแค่500 เมตรเองค่ะ คือให้เดินตรงๆตามลูกศรสีเขียวที่เราทำไว้เลยค่ะ
ระหว่างทางเดินไปบนฟุตบาท รอบข้างอาจจะไม่ค่อยมีผู้คน และอาจจะเจอกองขยะสักหน่อยค่ะ เพราะเหมือนข้างทางเป็นพื้นที่ร้าง แต่ก็พอเดินได้ไม่ลำบากค่ะ ถ้าเดินมาจากบีทีเอส ตามแผนที่ที่ทำลูกศรไว้เดินตรงๆไปจะถึงประตูข้างก่อน อันนี้จะต้องซื้อตั๋วราคาปกติ One day ถ้าเข้าประตูข้าง แต่ถ้าซื้อด้วยโปรโมชั่นพนักงานที่ประตูด้านข้างแจ้งให้ไปเดินอ้อม เข้าด้านหน้าประตูใหญ่ค่ะ
ข้อมูลจากวิกิพีเดีย จะได้รู้ข้อมูลคร่าวๆก่อนชมค่ะ
พิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ (The Erawan Museum) เป็นประติมากรรมลอยตัวรูปช้าง 3 เศียร ซึ่งในทางวรรณคดีไทยเอราวัณซึ่งมีเศียรทั้งหมด 33 เศียร แต่เนื่องจากปัญหาขนาดและโครงสร้างที่ซับซ้อนจึงลดมาเหลือเพียง 3 เศียร
ตัวอาคารแยกเป็น 3 ชั้น ตามความเชื่อในหลักไตรภูมิ คือ ชั้นบาดาล ชั้นโลกมนุษย์ และชั้นสวรรค์[2]
1) ชั้นบาดาล เป็นส่วนของงการจัดเก็บโบราณวัตถุที่เป็นของสะสมส่วนตัวของคุณเล็ก วิริยะพันธ์ ของเก่าส่วนใหญ่นั้นเป็นเครื่องถ้วย แจกัน จาน ชาม ชุดถ้วยชา ชั้นบาดาล มีรูปองค์จำลองมนุษยนาค นั่งอยู่กึ่งกลางห้อง สร้างขึ้นตามความเชื่อเพื่อให้มนุษยนาคคอยดูแลโบราณวัตถุอยู่ใต้น้ำ
2) ชั้นโลกมนุษย์ มีงานศิลปะให้ชม 3 ประเภทด้วยกัน งานปูนปั้นสดประดับด้วยเครื่องถ้วยเบญจรงค์ งานต้นเสาดีบุกดุนลาย และกระจกสี Stain Glass
3) ชั้นสวรรค์ เป็นส่วนของการจัดเก็บองค์พระพุทธรูปที่มีอายุสมัยเก่าแก่ ซึ่งยังมีงานศิลปะบนผนังท้องช้างที่เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับระบบสุริยะจักรวาล เป็นเทคนิคสีฝุ่นฝีมือช่างชาวเยอรมัน
พอเดินเข้ามาด้านในก็สามารถไปเอาดอกไม้ธูปเทียน เข้าไปไหว้ก่อนค่ะ จากนั้นก็รับดอกบัวมาลอยที่จุดลอยดอกบัว
สำหรับคนที่่ใส่กางเกงขาสั้น สายเดี่ยว สามารถเข้าไปยืมผ้าคลุม หรือ โสร่ง ได้ฟรีที่ห้องแต่งตัวก่อนค่ะ เพราะก่อนเข้าไปด้านในจุดฮอตฮิต ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยนะค้า
สำหรับด้านบนสุด มีส่วนที่เป็นลิฟต์และบันไดค่ะ แนะนำให้ขึ้นลิฟต์ค่ะ 555+ จะได้ไม่เหนื่อย
ก็ขอจบOne day trip สั้นๆที่เดินทางได้ง่าย ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ แต่เพียงเท่านี้ค่า 🙂