วันนี้อยากจะมาแชร์บัตรเครดิตที่เหมาะกับคนที่ชอบท่องเที่ยวต่างประเทศแบบสายประหยัด กินฟรีจากบัตรเครดิตนะจ้ะในรีวิวนี้เราจะขอพูดแต่จุดเด่นของแต่ละใบ ยังไม่ลงลึกมากจ้า เหมาะสำหรับ Beginer ที่กำลังมองหาบัตรเครดิตที่ตรงตาม Lifestyle การเดินทางในแต่ละแบบ

ก่อนอื่น เราขอแยกประเภทบัตรก่อน เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

1. สาย Life Style – ชอบพวกสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น ของกินฟรี ใช้เลานจ์ได้ เช็กอินก่อนใคร เดินทางด้วย Low cost ก็ได้ไม่เน้น Full service เช่น บัตร Citibank , Scb Kingpower, Airasia Bangkok Bank

2. สายปั่นไมล์ – เน้นสะสมไมล์อย่างเดียว ได้คะแนนเยอะ แลกไมล์กระจุย เช่น SCB my Travel และบัตร UOB Privimiles

มาเริ่มที่ประเภทแรก สาย Life Style เริ่มจากบัตรที่เรามองว่าเป็น Basic ค่อนข้างคุ้มในปีแรกที่ถือ ก็คือ

1.1 บัตร BBL Airasia โดยที่อาจจะใช้เวลาสมัครนานหน่อย เพราะธนาคารนี้ค่อนข้างได้ชื่อว่าอนุมัติบัตรช้า อย่างเราตอนนั้นสมัครใช้เวลาเป็นเดือนเลย แต่พอได้มาแล้วก็คุ้มค่าทีเดียว เพราะได้มาพร้อมกับบัตรโหลดกระเป๋า  4 ใบต่อปี (ใช้ได้เฉพาะขาไปเท่านั้นทั้ง  FD หรือ XJ) คือถ้าใครบินแอร์เอเชียบ่อยๆ แค่บัตรโหลดกระเป๋าก็คุ้มแล้ว แถมยังได้สิทธิ์ Xpress Check in ที่เคาน์เตอร์พิเศษ แล้วก็ได้ขึ้นเครื่องก่อนและรับกระเป๋าก่อน พอขึ้นเครื่องก็ได้น้ำฟรี ​(มูลค่า 60 บาท) คือแบบว่าเรียกว่าเป็นบัตรเบ่ง Low cost　ที่แท้จริงเลย

1.2 บัตร JCB ของค่ายไหนก็ได้ แต่ของเรามีของ KTC ใบนี้เป็นใบที่มีไว้ใช้เป็นส่วนลด อาจจะไม่ใช่บัตรหลักในการรูด เนื่องจากแต้มที่ได้ไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เรียกว่าเหมาะเป็นบัตรลดราคาร้านอาหารต่างๆที่เกี่ยวกับญี่ปุ่น พร้อมทั้งเป็นบัตรได้นั่งเลานจ์กิน ดื่มฟรี โดยสามารถใช้ห้องรับรองในสนามบินได้ฟรีที่ฮ่องกง สิงคโปร์ และเกาหลี จำนวน 2 ครั้งต่อบัตรหนึ่งใบในระยะเวลา 1 ปีปฎิทิน  แล้วก็ญี่ปุ่นสามารถเข้าได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง แถมค่าธรรมเนียมยังฟรีอีก สมัครไว้ไม่เสียหลาย ลองดูรีวิวเข้าเลานจ์ฟรีที่สิงคโปร์ได้ตามนี้นะจ้ะ Lounge สิงคโปร์ ฟรีด้วยบัตร JCB

1.3 บัตร CitiBank จริงๆมีหลายประเภท แต่ที่เราถืออยู่ จะเป็นตัว Citi ROP Select ที่เลือกถือตัวนี้เพราะค่าธรรมเนียม waived ได้ถ้าใช้ยอดถึง (แต่ถ้าอย่างบัตร Prefered ค่าธรรมเนียมเวฟไม่ได้ ) ตัว Select นี่ทุก 20 บาทได้ 1 ไมล์ แล้วก็ถ้าบินกับการบินไทยก็จะ ฟรี Royal silk lounge ที่สุวรรณภูมิ 2 ครั้ง/ปี แต่ว่าก็ใช้ได้เฉพาะผู้ถือบัตรหลัก ที่เราชอบ Select ก็ตรงที่ค่าธรรมเนียมเวฟได้ถ้าใช้ตามยอด และสิทธิพิเศษของ Citibank ที่ค่อนข้างเยอะ อย่างพวกลดค่าอาหารตามโปรห้างต่างๆ หรือสิทธิแลกอาหารฟรีที่สนามบินเมื่อเดินทางต่างประเทศ มีบัตร Citi กี่ใบก็แลกสิทธิ์ได้ตามจำนวนเลย ชอบโปรนี้มาก ทาง Citibank ก็ต่อโปรให้เรื่อยๆตลอด  😀

1.4 บัตร Citi Prestige บัตรใบนี้เป็นบัตรที่บังคับให้เสียค่าธรรมเนียม ซึ่งตอนแรกดูแพงมาก แต่ว่าเมื่อเทียบกับสิ่งที่จะได้แล้วเราว่าคุ้มค่ะ สำหรับคนที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหนโดยเครื่องบินบ่อยๆ แล้วยิ่งเดินทางด้วย Low cost นี่ยิ่งคุ้ม เพราะเราสามารถที่จะใช้ Lounge นั่งไฮโซได้ที่สนามบินเกือบทุกที่ทั้งในและต่างประเทศด้วยบัตร Priority Pass ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และบัตรใบนี้เป็นประเภท Visa Infinite ซึ่งเป็นขึ้นที่สูงที่สุดของประเภทบัตร Visa ด้วย (ทำให้มีสิทธิพิเศษอื่นๆที่ Visa เป็นคนให้ตามประเภทบัตรอีกต่างหากด้วย)

ยิ่งไปกว่านั้นถ้าเราใช้จ่าย  20,000 บาทภายใน 30 วันหลังจากได้บัตรเราก็จะได้แต้มพิเศษ 50,000 แต้ม เพื่อไปแลกไมล์สายการบินพันธมิตรได้มากมาย ได้แก่ Royal Orchid Plus, AirAsia, Asia Miles, Eva air, Singapore Airlines, KrisFlyer, British Airways, Ethihad Guest, Qantas Frequent Fly และ Qatar Airways แต่ที่คนส่วนใหญ่แนะนำก็คือให้แลกเข้า Avios โปรแกรมสะสมไมล์ของ British Airways  ก็จะได้ทั้งหมด 25,000 ไมล์ สามารถที่จะแลกตั๋วไปกลับญี่ปุ่นของ JAL ได้เลย

นอกจากนี้ยังมีสิทธิพิเศษอื่นๆอีกทั้งฟิตเนสที่โรงแรมคอนราด และ Renaissance ฟรี นอกจากนี้ยังได้บริการ Airport limousine 2  ครั้งต่อปี ยิ่งไปใช้ในต่างประเทศยิ่งคุ้มสุดๆ

มาต่อที่ข้อ 2 สายนักปั่น หรือสะสมไมล์ค่ะ ที่เราขอแยกมาอีกหัวข้อเพราะเราไม่ได้ถือบัตรเหล่านี้ค่ะ แต่คิดว่าน่าจะรีวิวไปด้วยกัน

2.1 บัตรเครดิต SCB My Travel ทุก 17 บาทแลกเป็นไมล์ ROP ได้ 1 ไมล์ ถือว่าเป็นอัตราที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว ตอนแรกเราก็อยากจะทำเพิ่ม แต่คิดไปคิดมาไม่ทำดีกว่าเพราะนอกจากสะสมไมล์แล้ว เลานจ์ก็ไม่มีให้ ของกินฟรีก็ไม่ค่อยมี ก็เลยยังไม่ทำ แต่ถ้าใครที่เน้นสะสมไมล์อย่างเดียว บัตรนี้น่าจะเป็นตัวเลือกต้นๆเลย

2.2 บัตรเครดิต UOB Privimiles ครบทุกๆ 15 บาท ได้ 1.2 คะแนน แลกรับ 1 ไมล์สะสม (เท่า 18 บาท = 1 ไมล์สะสม) สิทธิพิเศษในการแลกคะแนนสะสมเป็นไมล์สะสมในอัตรา 1:1 เมื่อใช้จ่ายสะสมผ่านบัตรฯ ตั้งแต่ 300,000 บาทขึ้นไป ต่อไตรมาส ตามปีปฏิทิน   ซึ่งเราว่าบัตรใบนี้ค่อนข้างจุกจิก ตรงเรื่องการคิดคะแนน และต้องใช้จ่ายต่อเดือนสูงเกินไป หนำซ้ำ Call center ก็ยังติดต่อยาก ข้อดีที่เห็นของคนอื่นที่ถือกันก็คือ จะชอบมีโปรโมชั่นพิเศษที่ได้แต้มเพิ่มเป็นบางช่วง แล้วก็จะมีได้คูปองเข้า Lounge ROP เมื่อบินกับการบินไทย 2  ครั้งต่อปี