สำหรับเส้นทางที่เราเลือกไปคือเส้นทางที่ 1 (มีทั้งหมด 3 เส้นทางให้เลือกไป ) โดยสายนี้เค้าจะเรียกเป็นชื่อเส้นว่าสาย มู(เตลู ) ซึ่งแน่นอนค่ะ สาวๆหลายคนชื่นชอบเรื่องนี้มาก โชคลาง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนเราเนี่ยรู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าวัดเลย อยากหาที่พึ่งทางใจมาก อยากหลบลี้หนีงานไปเที่ยวสักหน่อย เลยได้โอกาสเหมาะหลบจากกทม.ไปอีสานเลย และยิ่งจังหวัดอุดรธานีและหนองคายเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องวัดดังและความขลังด้วย ยิ่งไม่อยากพลาดเลยค่า

สำหรับกำหนดการเที่ยว 3 วัน 2 คืนเราสรุปมาให้ตามนี้ค่ะ เหมาะสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวอุดรธานี และหนองคาย มีเวลาสัก 3 วัน 2 คืน ทั้งไปวัด ตามหาเลขเด็ด ทานอาหารอร่อย นอนหลับสบาย สามารถตามรอยได้เลยค่า

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
พิกัด :ริมหนองประจักษ์ ถ.โพศรี อำเภอเมือง จ. อุดรธานี
เวลาทำการ :  อังคาร-อาทิตย์ เวลา 8:30-16:30 ไม่เสียค่าเข้าชม เบอร์โทร 042-245976
สำหรับพิพิธภัณฑ์นั้นจัดแสดงอยู่ในอาคารราชินูทิศ อาคารเก่าแก่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติโดยกรมศิลปากรค่ะ ด้านในจัดแสดงเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับเมืองอุดรธานี โดยเริ่มตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงยุคปัจจุบัน ทำให้เราเข้าใจประวัติความเป็นมาของการก่อตั้งเมืองอุดรธานีได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ถัดมาเราแวะไปวัดที่ไม่ไกลจากพิพิธภัณฑ์ค่ะ  นั่นก็คือวัดโพธิสมภรณ์

วัดโพธิสมภรณ์
พิกัด : ริมถนนโพศรี ตำบลหมากแข้ง
วัดแห่งนี้เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี สร้างขึ้นเมื่อปี 2449 ที่นี่มีปูชนียวัตถุที่สำคัญ ได้แก่ พระพุทธรูปทองสำริด พระพุทธรูปศิลาแลง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ รอยพระพุทธบาทจำลอง พระบรมธาตุเจดีย์ ตู้พระไตรปิฎกลายทองลดน้ำ ภายในวัดมี 3 ชั้น แบ่งเป็น ชั้นล่างสุดมีพระพุทธรูปที่ทำจากหินหยก  ชั้น2 มีพระแก้วมรกตจำลอง และภาพวาดจิตรกรรมเกี่ยวกับการธุดงค์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ชั้น3บนสุด เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ ผนังด้านบนวาดเป็นภาพจำลองสถานที่ประสูติ ตรัสรู้และปรินิพพาน

ในส่วนบันไดพญานาคนี้เป็นศิลปะล้านนา เรียกว่ามกร(มะกะระ)เป็นสัตว์ในป่าหิมพานต์เชิงเขาพระสุเมรุ ผสมกันระหว่างจระเข้กับพญานาค มีลำตัวยาวเหยียดคล้ายกับพญานาค แต่มีขายื่นออกมาจากลำตัว และส่วนหัวที่กำลังคาบพญานาค

มื้อกลางวัน – ร้านพรแหนมเนือง
กองทัพนั้นต้องเดินด้วยท้อง ต่อมาเรามาทานแหนมเนืองกันที่ร้านพรแหนมเนืองค่ะ
พิกัด : ถนนอธิบดี จ. อุดรธานี เบอร์โทร 042-230455
เวลาทำการ : 06:00 – 20:00
เมนูแนะนำคือแหนมเนืองค่ะ ได้ทานผักเยอะมาก อิ่มสุดๆไปเลย

โรงแรม บราวน์เฮ้าส์
พิกัด : ที่อยู่ 234/5 หมู่ 1 ซอย ริมหนองบัว 6 ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง
จังหวัด อุดรธานี 41000
โทรศัพท์ : 042-222-668
โรงแรมบราวน์เฮ้าส์ที่เราเข้ามาเช็คอินกันก่อน ก่อนที่จะไปทานอาหารเย็น เพียงแค่เข้ามาสู่ล้อบบี้ก็สัมผัสได้ถึงความน่ารักของโรงแรม สไตล์อีสาน ไม่ว่าจะเป็นของประดับตกแต่งแบบอีสาน และการตกแต่งที่เน้นไม้ และโทนสีน้ำตาลอบอุ่น นอกจากนี้ที่โรงแรมยังมีสระว่ายน้ำ และอาหารเช้าที่มีหมูปิ้งรสจัดจ้าน สำหรับเติมพลังในมื้อเช้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ

และมื้อเย็นที่รอคอย คาเฟ่สุดเก๋ ขนมอร่อยสุดๆที่บ้านนาคาเฟ่

บ้านนาคาเฟ่ 
พิกัด :บ้านนาคาเฟ่ หมู่ที่ 1 ตำบลหมูหม่น อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เปิดบริการ : ทุกวัน เวลา 9.00-18.30 น
ร้านนี้มีทั้งส่วนที่เป็นขนมเค้กและอาหาร เสียดายที่พอเราถึงที่ร้านฝนตกพอดี ทำให้ไม่ได้เก็บบรรยากาศอันร่มรื่นภายนอก แต่พอเข้ามาในส่วนคาเฟ่แล้วก็ต้องตะลึงกับขนมเค้กที่หน้าตาน่ากินมาก ถึงมากที่สุดที่เรียงราย พอลองไปเท่านั้นค่ะ ไม่ได้ดีแต่หน้าตาจริงๆ รสชาติอร่อยมากค่ะ แบบว่าหวานกำลังดีไม่เลี่ยนเกินไป แนะนำว่าใครมาอุดร ต้องอย่าพลาดมาทานเค้กร้านนี้เลยนะคะ

มาต่อวันที่ 2 ของทริปนี้กันนะคะ หลังจากที่พวกเราทานมื้อเช้าที่โรงแรมเสร็จก็เดินทางด้วยรถตู้เข้าสู่จังหวัดหนองคายค่ะ
พระธาตุกลางน้ำ (พระธาตุหล้าหนอง)
พิกัด: ซอยวัดธาตุ 3 ถนนริมโขง อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย
ความเป็นมาก็คือ พระธาตุที่เราเห็นบนบก ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทดแทนองค์เดิมที่อยู่ในแม่น้ำโขง แต่เดิมพระธาตุตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง แต่เนื่องจาก แม่น้ำกัดเซาะตลิ่งจนพระธาตุพังลงในแม่น้ำ ทำให้ปัจจุบันองค์พระธาตุจมอยู่กลางแม่น้ำโขงห่างจากฝั่งไทย 180 เมตร องค์พระธาตุก่อด้วยอิฐถือปูน ล้มตะแคงไปตามกระแสน้ำ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ มีฐานเหลี่ยมมุมฉาก โดยด้านหนึ่ง โผล่ ขึ้นมาเหนือน้ำเพียงครึ่งฐาน

การที่เราจะไปสักการะพระธาตุสามารถใช้บริการเรือเพื่อเข้าไปไหว้ใกล้ๆได้ค่ะ แต่สำหรับของที่ใช้ในการไหว้ (ดอกไม้ บายศรี น้ำอบ)ให้ซื้อจากร้านค้าที่ตั้งอยู่ด้านบน ใกล้กับองค์พระธาตุใหม่ได้เลยค่ะ เพราะด้านล่างจะไม่มีขาย สำหรับอัตราค่าบริการเรือ ไหว้พระธาตุ 1-10 คน 200 บาท ถ้า 10-20 คน คนละ 20 บาท
ส่วนใครจะมาทำพิธีเช่น ลอยอังคาร ห่มผ้า ปักธง ทำพิธีสวดมนต์นาน 30  นาที ค่าบริการ 500 บาทค่ะ

วัดโพธิ์ชัยพระอารามหลวง
พิกัด : 873 หมู่ 10 ถนนพระใส ตำบลในเมือง อำเภอเมืองหนองคาย จ.หนองคาย
วัดโพธิ์ชัยนั้นเป็นพระอารามหลวงเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อพระใส ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวเมืองหนองคายนับถือกันมากค่ะ

มื้อกลางวัน – ร้านอาหารครัวเวียงจันทน์
พิกัด :79 ม.1 ถ.ริมโขง ต.เวียงคุก อ.เมืองหนองคาย จ.หนองคาย 43000
เบอร์โทร 042438438
ร้านอาหารตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงค่ะ ร้านเปิดโล่ง บรรยากาศค่อนข้างดีเลยค่ะ
เมนูที่สั่งได้แก่ ต้มยำปลาบึก ยำหมูยอ หมูสามชั้นทอดเกลือ ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ผัดฟักแม้ว ลูกชิ้นปลากรายกะเพรากรอบ แกงปูใบชะพลู

อิ่มท้องแล้ว ก็ออกเดินทางกันต่อเลยจ้า สถานที่ถัดไฟ วัดพระธาตุบังพวน

วัดพระธาตุบังพวน
พิกัด :172 บ้านพระธาตุบังพวน หมู่ 3 ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย ต.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
พระธาตุบังพวนเป็นเจดีย์เก่าแก่ โดยมีพระธาตุบังพวกเป็นองค์ประธานของวัด รูปทรงปราสาทสี่เหลี่ยม นอกจากนี้ยังมีกลุ่มโบราณสถานที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา หมายถึงการจำลองสถานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ หลังจากตรัสรู้แล้ว จำนวน ๗ แห่ง คือ โพธิบัลลังก์, อนิมมิสเจดีย์ ,รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์,อชาปาลนิโครธเจดีย์,มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์ ซึ่งในวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้นับเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง ๗ สิ่ง
หลังจากที่เดินชม สัตตมหาสถานครบแล้ว (แต่ละที่จะมีเลขกำกับและป้ายบอกชื่อค่ะ) เราก็ซื้อดอกไม้และธูปเทียนเดินเวียนเทียนรอบพระธาตุ ขอบอกว่าต้องระวังเท้าดีๆนะคะ แดดแรงมากขนาดมีถุงเท้าก็ยังเกือบจะไหม้เลย แต่เพื่อแต้มบุญก็ต้องยอมค่ะ

และๆๆ วัดที่เรารอคอย วัดนี้ต้องขึ้นเขากันไปเลยทีเดียว และมุมมองจากวัดด้านบนก็สวยมากๆ

วัดป่าภูก้อน
พิกัด : บ้านนาคำใหญ่ ตำบลบ้านก้อง อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
เวลาทำการ : 05:00 – 17:00
ที่ถัดมาคือวัดป่าภูก้อน เนื่องจากว่าที่นี่ค่อนข้างไกลทีเดียว โดยวัดนี้ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่านายูงและป่าน้ำโสม ท้องที่บ้านนาคำใหญ่ ตำบลบ้านก้อง อันเป็นรอยต่อแผ่นดิน 3 จังหวัด คือ อุดรธานี เลย และหนองคาย ค่ะ เนื่องจากว่าเราถึงที่นี่ตอนที่วัดใกล้จะปิดโซนด้านในแล้ว เพราะฉะนั้นตอนมาต้องเช็กเวลาดีๆนะคะ โดยไฮไลท์ของที่นี่คือ พระพุทธไสยาสน์หินอ่อนสีขาว ( พระนอน ) ความยาว 20 เมตร สร้างด้วยหินอ่อนจากประเทศอิตาลี ที่นำมาเรียงซ้อนกันถึง 42 ก้อน ซึ่งเป็นหินขาวอ่อนที่มีความสวยงามและทนทานมากที่สุด ใช้ระยะเวลาในการสร้างถึง 6 ปี สร้างขึ้นเนื่องในโอกาสมหามงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว(ร.9) ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา ในปี 2554 โดยถ้าดูเสาด้านบนจะเห็นว่าเลข 9 ไทยด้วยค่ะ

เหนื่อยกันมาทั้งวันแล้ว ท้องก็ร้อง เราก็หิ้วท้องกลับกันมายังตัวเมืองอุดร ฝ่ารถติดกันไป เข้ามาถึงจุดหมายมื้อเย็นของทริปวันนี้

ร้าน Dose Factory
พิกัด:112/1 ถนนนเรศวร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เวลาทำการ :10:00 – 22:00 เบอร์โทร 098-661-4642
ร้านกาแฟเท่ห์ๆ ชื่อดัง ของอุดร ที่ตกแต่งออกแนวโมเดิรน์แบบดิบๆหน่อย นอกจากจะขายกาแฟ ขายขนมแล้ว ก็ยังขายอาหารที่เป็นสไตล์ฝรั่งที่อร่อยทุกอย่างเลย  ไม่ว่าจะเป็นคริสปี้ คาลามาริ ซี่โครงหมูอบซอสบาร์บีคิว สปาเกตตี้คาโบนาร่า สปาเกตตี้เบคอนกระเทียมพริกแห้ง พิซซ่าแฮมสัปปะรด (อันนี้วัดได้จากการที่อาหารหมดอย่างรวดเร็วมากๆค่ะ 555+) นอกจากนี้เครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟก็ยังมีพวก Mocktail และ Cocktail เก๋ๆทั้งการเสิรฟ์และหอมอร่อยอีกด้วย

ถนนคนเดินอุดรธานี
พิกัด:ถนนอธิบดี หน้าศาลากลาง ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี
เวลาทำการ :16.00-21.00
จริงๆในตารางการเที่ยวไม่ได้รวม Udonthani Walking Street ไว้ แต่ด้วยพี่ๆสต้าฟใจดีถามว่าอยากแวะมั้ย เราก็เลยได้แวะกันก่อนที่จะเข้าที่พักค่ะ ถือว่าเป็นถนนคนเดินที่คึกคัก ใหญ่ ยาว (ทางเดิน 2 ฝั่งยาวมากก ) ร้านค้ามีทุกอย่างค่ะ ทั้งเสื้อผ้า ของทำมือ ขนม ของกิน มีให้เลือกสรรละลานตา เราก็เลยได้ลองนมไข่มุก ราคาย่อมเยาไป แบบว่าเห็นแล้วอดไม่ได้ ลงแดงไข่มุกจ้าาา พอเดินตลาดเสร็จกลับที่พักก็นอนกลิ้งพุงยื่นกันไปเลยจบไปอีกวันอย่างอิ่มหมีพลีมันค่ะ

วันสุดท้ายของทริป วันที่สาม
เวลาแห่งความสุขช่างหมดไปไวจริงๆเลยค่ะ วันนี้เป็นวันสุดท้ายของทริป และก็เป็นวันที่ดวงชะตาฟ้าลิขิตวันหวยออกนั่นเอง ถือว่าวันนี้ต้องลุ้นกันเลยเพราะพวกเราจะไปลุ้นดวงกันว่าจะดวงดียกแก๊งค์กันไหมที่คำชะโนด

คำชะโนด
พิกัด: วังนาคินทร์คำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
เวลาทำการ :06.00-18.00
จากโรงแรมบราวน์เฮ้าส์เรานั่งรถตู้มาถึงใช้เวลาประมาณ 1ชั่วโมงครึ่งค่ะ ก่อนที่จะเข้าสู่ด้านในทางพี่วิทยากรก็เล่าประวัติความเชื่อเกี่ยวกับพญานาคให้ฟังก่อน โดยป่าคำชะโนดป่าคำชะโนดเป็นสถานที่ ๆ ปรากฏในตำนานพื้นบ้าน เป็นสถานที่ ๆ เชื่อว่า พญานาค 2 ตนเป็นเพื่อนรักกันชื่อ สุทโธนคราชกับ สุวรรณคราช ทั้งสองมีอาหารก็แบ่งกันแต่มีข้อตกลงสำคัญกันว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกไปล่าเนื้อหาอาหาร อีกฝ่ายจะต้องไม่ออกไปเพราะอาจเกิดทะเลาะเบาะแว้งกันได้” อยู่มาวันหนึ่งก็เกิดปัญหา เมื่อมีข้อขัดข้องหมองใจเรื่องการแบ่งสรรปันอาหาร กระทั่งแคลงใจกัน คิดว่าอีกฝ่ายเล่นไม่ซื่อไม่ปฏิบัติตามสัญญา แม้ว่าอีกฝ่ายจะชี้แจงแถลงไขแต่ก็ไม่ยอมเชื่อ จนทะเลาะกัน 7 ปี 7 วัน 7 เดือน เดือดร้อนจนพระอินทร์ต้องมาห้าม ท่านเลยให้แข่งขุดแม่น้ำ ถ้าใครสร้างถึงทะเลก่อนก็จะให้ปลาบึก ฝ่ายสุทโธนคราชขุดโค้งจนเป็นแม่น้ำโขง และขุดเสร็จก่อนจึงเหาะไปเฝ้าพระอินทร์ทูลขอทางขึ้นลงระหว่างเมืองบาดาลกับโลกมนุษย์เอาไว้ 3 แห่ง ได้แก่ ที่ธาตุหลวงนครเวียงจันทน์ ที่หนองคันแท และที่พรหมประกายโลก หรือคำชะโนด  และอีกสายคือสุวรรณคราช ขุดเรียกว่า แม่น้ำน่าน

สำหรับคนที่จะเข้าไปสักการะ จะต้องซื้อบายศรีพญานาคจากด้านนอกเข้าไปค่ะ ราคานั้นก็ขึ้นอยู่กับความอลังการของแต่ละอันเลย บางร้านหลักพัน ทำได้สวยงามมากๆ ถือเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านเลย หากใครพอไหว้ด้านในเสร็จจะเอากลับไปบูชาที่บ้านต่อก็ขอได้ค่ะ

มื้อกลางวัน – ร้านเวียงชัยบุรี
พิกัด:130 หมู่6 ตำบลเตาไห อำเภอเพ็ญ จ.อุดรธานี
เบอร์โทร 063-164 1611
สำหรับร้านอาหารเวียงชัยบุรีนี้ คงต้องบอกว่าโดดเด่นที่วิว และบรรยากาศจริงๆเลยค่ะ แค่ทางเดินสะพานไม้ข้ามทุ่งนาเข้ามา และตัวอาคารที่อยู่รอบก็อลังการสุดๆ เหมาะกับเป็นมุมถ่ายรูปเช็กอินเก๋ๆได้เลย สำหรับเมนูอาหารนั้นมี ตำถาดลาว ปลาช่อนทอดสมุนไพร ไข่เจียว  (เบสิคแต่อร่อยตลอดกาล อิอิ ) ต้มยำปลาคัง  หมูแดดเดียว เห็ดรวมน้ำมันหอย และไส้กรอกอีสานค่ะ

ศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน มูลนิธิศาลเจ้าปู่ย่า
พิกัด :888 ถนน39 ต.หมากแข้ง อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี
เวลาทำการ :09:00 – 19:00 ไม่มีการเก็บค่าเข้าชมนะคะ

ศาลเจ้าปู่ย่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองอุดรธานีมากราบไหว้ขอพรให้ชีวิตประสบความสำเร็จ มีความสุขในชีวิต โดยบริเวณเดียวกันจะมีศาลอีก 6 ศาลที่อยู่รอบๆ (โดยจะมีจุดเลขบอกว่าไหว้อะไรก่อน) คือ ศาลเทพยดาฟ้า-ดิน หรือทีตี่แป่บ้อ ศาลเจ้าปู่-ย่า (ศาลประธานตั้งอยู่ตรงกลาง) ศาลเจ้าพ่อหนองบัว ศาลเจ้าที่ (ตี่จู้เอี๊ย) พระสังกัจจายน์ และแงง่วนส่วย (เทพแห่งปราชญ์) คนจะนิยมขอพรในเรื่องการค้า การทำธุรกิจให้รุ่งเรืองก้าวหน้า รุ่งเรือง ร่ำรวย
การสักการะ: ธูป 30 ดอก แต่ละจุดใช้ธูปรวม 5 ดอก ปักตรงกลาง 3 ดอก และปักด้านข้าง ข้างละ 1 ดอก

พอเราไหว้พระเสร็จก็ตามวิทยากรเข้ามาในส่วนของศูนย์วัฒนธรรมไทย – จีน ซี่งมีทั้งสวนแบบจีน อันร่มรื่น ตรงจุดที่เป็นปลาคาร์ฟเราสามารถซื้ออาหารให้น้องปลาและถ่าย และมีร้านจิบน้ำชาจีน ซึ่งเราไม่พลาดที่จะซื้อกลับบ้านหลังจากที่ชิมเสร็จค่ะ หอมอร่อยและดีต่อสุขภาพ จากนั้นเราก็เข้าฟังประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในอุดร และพิธีกรรมแบบจีนตามความเชื่อในแต่ละเทศกาล

และพิกัดสุดท้ายย ก่อนที่เราจะโบยบินกลับกทม. ก็ขอไปคาเฟ่ชื่อดังของอุดรกันสักหน่อย

แวะทานขนมและกาแฟ ที่ร้าน Beyond cafe
พิกัด: 54/10, ถนนบ้านโนน, หมากแข้ง จ.อุดรธานี
ร้านคาเฟ่ยอดนิยม มีของหวาน ขนมเค้กให้เลือกมากมาย และชากาแฟก็เช่นกัน แถมมีตั้งหลายโซนทั้งตรงที่มีแอร์และ Outdoor รวมถึงห้อง Private ค่ะ เราสั่งบิงซูไข่เค็มตัวที่โฆษณาอยู่หน้าร้าน แล้วก็ต้องตกใจในความอลังการของปริมาณที่เค้าให้มาแบบว่าเยอะมาก แนะนำว่าถ้าสั่งเนี่ยต้องหาเพื่อนช่วยกินด่วนเลยจ้า

และแล้วเราก็ขอจบการรีวิวการท่องเที่ยวอุดรกับพันทิปแต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณที่อ่านกันมาจนจบนะคะ 🙂