สวัสดีทุกคน รีวิวนี้สืบเนื่องมาจากที่เราได้ไปเที่ยวฟรี ณ กาญจนบุรีกับ Pantip
ทำยังไงถึงได้ไปฟรี? ก็เล่นเกมส์นั่นเอง ในหน้า Activities เค้ามีแจ้งในไลน์ด้วยนะเทอ นักล่ารางวัลอย่างเรามีหรือจะพลาด รีบสมัครรับข้อมูลเลย 55 นอกจากจะเที่ยวฟรี กินฟรี มีของแจกแล้ว เค้ายังมีอบรมเกี่ยวกับความรู้การโพสกระทู้แล้วก็ถ่ายภาพด้วยหละ
มาด้านท่องเที่ยวกันดีกว่า โปรแกรมของรูท 2 ที่เราไปมีประมาณนี้จ้ะ ไม่ค่อยสมบุกสมบันเท่ารูทอื่นๆ เหมาะกับวัยอย่างเราๆจริงๆ
– เดินชมและสักการะองค์พระ ณ วัดทิพย์สุคนธาราม เป็นวัดที่จุดเด่นคือพระพุทธรูปองค์สูง ขนาดใหญ่เท่าเทพีเสรีภาพเลยทีเดียว
– ชมการแสดงสัตว์และให้อาหารสัตว์แบบใกล้ชิด ณ สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค ไฮไลท์ของที่นี่คือการให้อาหารยีราฟแบบใกล้ชิดมาก นางจะยื่นหัวเข้ามาหาของกินถึงในรถทีเดียว
– กิจกรรมแอดเวนเจอร์ ณ เลค เฮฟเว่น รีสอร์ท อันนี้ค่อนข้างเฉยๆ แบบว่าที่นี่ดังเพราะเป็นที่แรกเลยที่มีกิจกรรมให้เล่นแบบนี้ แต่คนค่อนข้างจะพลุกพล่านแล้วก็พนักงานอัธยาศัยไม่ค่อยดีไปหน่อย
ที่พักที่แรก Felix River Kwai Resort เป็นทั้งที่นอนคืนแรก แล้วก็ที่ๆใช้ห้องประชุมสัมมนาด้วย
บรรยากาศดีมากค่อนข้างชอบที่นี่ อารมณ์เหมือนเดินเล่นในเขาวงกต ห้องที่เราได้นอนเป็นห้อง Twin bed
ส่วนห้องน้ำก็กว้างทีเดียว มีไดร์เป่าผม สบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัวพร้อม
บริเวณที่นั่งด้านนอกมาก มองเห็นริมน้ำ ชิลมาก เหมาะแก่การนั่งจิบเบียร์เย็นๆ เหม่อมองธรรมชาติ
ตัดมาที่อาหารเช้าของโรงแรม เราแอบหลงทางค่ะ ถ้าใครมาพักที่นี่แนะนำให้พกแผนที่ที่เค้าแจกด้วยนะคะ ไม่งั้นมีหลงค่ะ เพราะที่พักกว้างมาก ห้องเยอะ เราและเพื่อนเดินวนแล้ววนอีก หาห้องอาหารไม่เจอ 555
ในไลน์อาหารก็มีค่อนข้างหลากหลายนะคะ แต่ตอนเช้าเรากินเบาๆค่ะ โจ๊กร้อนๆตอกไข่ลวก แล้วก็สลัด
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจที่แรก ที่เราจะไปกันนั่นก็คือ
วัดทิพย์สุคนธาราม อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 55 กม. มีพื้นที่ประมาณ 320 ไร่ จุดเด่นคือ พระพุทธเมตตาประชาไทยไตรโลกนาถคันธารราฐอนุสรณ์ (แค่ชื่อนะเนี่ย ยาวมากกก) ซึ่งองค์ใหญ่มาก สูง 32 เมตรค่ะ หรือถ้าจะเทียบพอให้เห็นภาพก็คือขนาดพอๆกับ เทพีเสรีภาพ (เวอร์ชั่นไม่นับคบเพลงที่ถือชูขึ้นไปนะคะ พี่ไกด์จากหนุ่มสาวทัวร์ บอกไว้ค่ะ)
พระพุทธรูปปางคันธารราฐ หรือ ปางขอฝน ที่เป็นปางนี้เพราะแต่เดิม พื้นที่บริเวณตำบลดอนแสลบเป็นพื้นที่ที่แห้งแล้งขาดแคลนน้ำ ซึ่งตามเจตนารมณ์เดิมของสมเด็จพระมหาธีราจารย์อดีต เจ้าอาวาสวัดชนะสงคราม (ปัจจุบันมรณภาพไปแล้ว) สร้างพระพุทธรูปองค์นี้เพื่อแทนพระพุทธรูปแห่งบามิยัน ที่ประเทศอัฟกานิสถานที่ถูกทำลายลงไป
Tips
– ใครอยากที่จะเข้าไปดูองค์พระใกล้ๆ ต้องแต่งตัวเรียบร้อยนะคะ คือกางเกงต้องยาวคลุมเข่า ไม่งั้นเจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้านะจ้ะ
– ภายในมีจักรยานให้เช่าขี่เล่นด้วยหละ แต่ไม่รู้คิดเงินยังไง
– มีร่มตั้งไว้ให้ยืมด้วย เห็นอยู่หลายจุดเหมือนกัน เช่นตรงทางเข้าใกล้ร้านขายของที่ระลึก เพราะแดดที่นี่เปรี้ยงมาก
– ก่อนจะเดินไปไหว้พระ แนะนำให้ไปรับบัตรคิวเข้าชมนิทรรศการของวัดนี้ก่อนนะคะ เค้ามีให้เข้าชมฟรีมีเป็นรอบๆค่ะ
หลังจากสักการะองค์พระเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาเข้าไปฟังประวัติกันค่ะ พวกเราเข้าไปฟังรอบแรกกันเลย แนะนำว่าอยากให้เข้าไปฟังกันนะคะ ทำไว้ดีมากๆเลย ชื่อว่านิทรรศการ อนุสรณ์แห่งการตื่นรู้ ด้านในจะเป็นประวัติ วิธีการสร้างว่าทำยังไงถึงจะทำให้การสร้างองค์พระพุทธรูปใหญ่ขนาดนี้สำเร็จ ประวัติความเป็นมา วิธีทางด้านวิศวกรต่างๆ
มาต่อกันที่
สวนสัตว์เปิดซาฟารีปาร์ค (เปิดทุกวัน 9:00 – 17:00 น) ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 80 บาท สำหรับชาวต่างชาติ 450 บาท สวนสัตว์นี้ตั้งอยู่ที่ อำเภอบ่อพลอย อยู่ห่างจากตัวเมืองกาญจน์ประมาณ 40 กม. และเป็นสวนสัตว์เปิดแห่งแรกของกาญจนบุรีค่ะ
เราสามารถที่จะขับรถยนต์เข้าไปเที่ยวชมได้ด้วยตนเองเลย หรือถ้าไม่มีรถส่วนตัวมา ก็มีรถที่สวนสัตว์จัดเอาไว้ จริงๆเราแนะนำว่านั่งรถของสวนสัตว์น่าจะได้บรรยากาศที่ตื่นเต้นกว่าค่ะ เพราะถ้าเข้าไปในโซนที่มีเสือ สิงโต ถ้าขับรถไปเองเค้าจะบังคับให้ปิดหน้าต่าง ห้ามเปิด แต่สำหรับรถของสวนสัตว์ที่ยกสูงกว่า ไม่มีหน้าต่างและไม่จำเป็นต้องปิดค่ะ ดังนั้นก็เห็นสัตว์ใกล้ชิดมากกก
พอเข้ามาแล้วเราก็รีบตรงดิ่งไปห้องน้ำค่ะ 55 ระหว่างทางไปห้องน้ำก็เห็นฝรั่งสาววัยรุ่นนั่งอยู่ที่พื้นกัน2 คน มองเข้าไปด้านในเจออีก 1 คน พร้อมกับลูกเสือนอนหงอยอยู่ ตรงนี้สามารถที่จะให้นมลูกเสือได้อย่างใกล้ชิดแต่มีค่าใช้จ่ายนะคะ เท่าที่อ่านดูเหมือนสวนสัตว์ที่นี่จะเปิดรับ Volunteer เพื่อที่จะมาดูแลสัตว์แล้วก็เป็นเจ้าหน้าที่ในการแนะนำนักท่องเที่ยวด้วย
มื่อเราออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าทุกคนขึ้นรถของสวนสัตว์กันหมดแล้วค่ะ เลยไม่ทันที่จะซื้ออาหารสำหรับให้กับบรรดาสัตว์นานาชนิด ไม่เป็นไรค่ะ คิดว่าจะได้เก็บภาพได้ถนัดแทนละกันแหะๆ
พอขึ้นรถไปแล้ว ก็จะเห็นสัตว์ทั้งหลายเป็นโซนๆนะคะ พี่ไกด์บอกว่าถึงแม้ว่าไม่มีนักท่องเที่ยวมาให้อาหาร เหล่าน้องกวางพวกนี้ก็จะมีอาหารกินอยู่แล้ว ไม่อดตายแน่นอน
โซนนี้เห็นหมีดำด้วยจ้า
แต่ละโซนเค้าจะมีแผงเหล็กอัตโนมัติกั้นไว้นะคะ ไม่อย่างนั้นถ้าน้องเสือกะน้องกวางอยู่ด้วยกันคงจะไม่งาม
หันมามองพร้อมกันหมดเลย แต่เค้าไม่มีอาหารให้อ่ะ ขอโต๊ดดน้า ><
สิงโตตัวผู้กำลังตามจีบตัวเมียอยู่ พี่ไกด์บอกว่าถ้าสิงโตยิ่งแก่แผงคอก็จะใหญ่ แสดงว่าตัวนี้อายุยังน้อย แผงคอไม่ใหญ่มากค่ะ
มาเข้าสู่โซนที่เรียกว่าเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือโซนยีราฟจ้ะ ยีราฟเยอะมากๆๆๆ พอรถเราเข้ามารีบวิ่งกันมาเลย
โซนนี้มีน้องม้าลายด้วยนะ ส่วนใหญ่น้องจะถูกลืมเพราะแย่งอาหารไม่ทันพี่ยีราฟ อย่าลืมเก็บอาหารไว้ให้น้องด้วย
พี่ยีราฟคอยาว ยื่นเข้ามาในรถเลยจ้ะ เป็นประสบการณ์ตื่นเต้น แตกตื่นกันทั้งคัน เพิ่งเคยได้สัมผัสยีราฟใกล้ชิดมาก
พอดีมีเพื่อนสมาชิกใจดีแบ่งอาหารให้เราให้น้องยีราฟด้วย เราก็อยากจะเซลฟี่กับยีราฟ ในมือก็ยังถือถัวฝักยาวไม่หมด น้องยีก็เลยยื่นหัวมาพันตัวข้าพเจ้าเลยจ้า จักจี้สุดๆ
จากนั้นเราก็ไป Lake Heaven กันต่อค่ะ ตามโปรแกรมเดิมเราจะต้องพักกันที่รีสอร์ท แต่เนื่องจากอาทิตย์ที่เราไปกันนั้นเป็นวันหยุดยาวที่พักเต็มจ้ะ (ตอนแรกแอบเสียดายว่ามาเล่นเครื่องเล่นที่นี่แต่ไม่ได้พักแอบแปลกๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ดีเหมือนกันค่ะ เพราะรีสอร์ทที่เราไปพักคนไม่พลุกพล่าน ดูวุ่นวายเหมือนที่ Lake Heaven เลย เหมาะกับการพักผ่อนมากกว่า)
สำหรับเครื่องเล่น สไลเดอร์ยักษ์เห็นหลายคนที่เล่นดูสนุกมาก แต่ว่าก็ต้องใช้แรงมากเหมือนกันค่ะ เราเลยขอหนีไปพายเรือแทน ตอนแรกนึกว่าน้ำจะใสกว่านี้ แต่ว่าฟ้าใสอย่างเดียว แดดเปรี้ยงเลย อย่าลืมโปะครีมกันแดดกันเยอะๆก่อนนะคะ
เสร็จจาก Lake Heaven ก็ไปที่ รายาบุรี รีสอร์ท
ที่นี่มีห้องพักหลายจุด ทั้งตรงที่เป็นแพริมน้ำ ส่วนเราได้ห้องด้านบนเนินค่ะ มารับกุญแจที่ล้อบบี้กันก่อน ด้านหน้าล๊อบบี้มีมินิมาร์ทเล็กๆ มีขายขนม เครื่องดื่ม เบียร์ นิดหน่อย เนื่องจากที่พักนี้เข้ามาจากถนนใหญ่ค่อนข้างลึกเหมือนกัน ดังนั้นอาจจะตุนเสบียงจากข้างนอกมาก่อนแล้วค่อยเข้าที่พัก เพราะถ้าเข้าที่พักมาแล้ว ออกไปด้านนอกไกลเหมือนกันค่ะ
เท่าที่ดูแล้วราคาที่พักที่นี่ถ้าจองมาเป็นแพ็คแกจน่าจะถูกกว่าจองห้องเดี่ยวๆนะคะ ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำเหมือนกัน แต่เนื่องจากเรามาถึงเย็นแล้ว ก็เป็นกิจกรรมออกกำลังเหงือกกับฟันอย่างเดียวค่ะ (กินข้าวเย็นนั่นเอง แฮ่)
มาดูห้องกันดีกว่า
ระเบียงด้านนอก
ห้องอาบน้ำเป็นฝักบัวนะคะ น้ำแรงใช้ได้เลย ชอบค่ะ ทางไปห้องพักเราต้องขึ้นเนินค่ะ ที่นี่ก็มีรถกอล์ฟรับส่งสามารถเรียกได้ แต่บางทีเราก็ขี้เกียจเรียกเดินออกกำลังกายดีกว่า กลับมาดูบรรยากาศห้องแพริมน้ำค่ะ เพื่อนพันทิปบางท่านได้นอนห้องแพก็บอกว่าบรรยากาศดีทีเดียว เค้าเปิดไฟประดับด้วย
และ ตัดภาพมาที่ตอนเช้ากันดีกว่าค่ะ มาถ่ายรูปอีกรอบก็เพิ่งสังเกตว่า หากจะลงด้านล่างส่วนที่เป็นแพ มีลิฟต์ให้ด้วย ดูดีงามสุดๆค่ะ